หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2553

Image Format ขนาดของภาพกับประเภทของกล้อง


Image Format ขนาดของภาพกับประเภทของกล้อง

กล้องถ่ายภาพถูกแบ่งออกเป็นหลายประเภท การแบ่งจะขึ้นอยู่กับโครงสร้างหรือลักษณะการทำงาน และขนาดของฟิล์มหรืออิมเมจ เซ็นเซอร์ที่ใช้กับกล้อง ประเภทของกล้องถูกแบ่งออกเป็น 5 ประเภท คือ
1. Rangefinder
2. Single lens reflex 35 mm
3. Single lens reflex medium format
4. Twin lens reflex medium format
5. View camera (Large format)

ถึงกล้องจะมีมากมายหลายแบบ แต่ถ้าเจาะจงลงไปในกลุ่มที่ถ่ายภาพเป็นอาชีพ กล้องที่ถูกนำมาใช้งานจะมี เพียงสามแบบคือ SLR 35 mm, Medium format และ Large format หรือที่ เรียกในอีกชื่อว่า View camera การเลือกใช้งานนั้นขึ้นอยู่กับคุณภาพของภาพ ที่ต้องการ อุปกรณ์เสริมและความคล่องตัวที่ง่ายต่อการนำไปใช้

35 mm
เป็นฟิล์มที่ถูกใช้มากที่สุด ทั้งในการถ่ายทำภาพยนตร์ และภาพนิ่ง เหตุผลก็เนื่องจากตัวกล้องที่ใช้มีขนาดเล็ก มีความคล่องตัว ในการใช้งานสูง โดยเฉพาะในกลุ่ม นักข่าวที่ต้องการใช้กล้องที่มีความคล่องตัวสูง ก่อนที่การ ใช้งานจะแพร่หลายสู่กลุ่มผู้ใช้ทั่วไป ฟิล์ม 35 มิลลิเมตร มีขนาดพื้นที่รับภาพ 36x24 มิลลิเมตร

กล้อง ดิจิตอล SLR ที่มีขนาดของอิมเมจเซ็นเซอร์ 36 x 24 มิลลิเมตร จะถูกเรียกว่า Full-Frame เพราะมีขนาด ของอิมเมจเซ็นเซอร์ ใหญ่เท่ากับฟิล์ม 35mm นั่นเอง ตัวอย่างกล้องฟูลเฟรมก็เช่น Canon EOS 1Ds, EOS 5D, Nikon D3 เป็นต้น

APS (Advanced Photo System)
ฟิล์มชนิดนี้มีพื้นที่รับภาพสามขนาดคือ High Definition (H) มีพื้นที่รับภาพ 30.2x16.7 มิลลิเมตร Classic (C) มีพื้นที่รับภาพ 25.1x16.7 มิลลิเมตร และ Panoramic (P) มีพื้นที่รับภาพ 30.2x9.5 มิลลิเมตร เนื่องจากขนาดฟิล์มที่เล็ก คุณภาพที่ดีอยู่ที่การอัด 4x6 นิ้ว เมื่อขยายไปถึง 8x10 นิ้วก็เริ่มเห็นความบกพร่อง ทำให้ไม่ได้รับการ ยอมรับในกลุ่มมืออาชีพ อีกทั้งต้นทุนในการล้างอัดยังสูงกว่าฟิล์ม 35 มิลลิเมตร

กล้อง ดิจิตอล SLR ส่วนใหญ่มีขนาดอิมเมจเซ็นเซอร์ ใกล้เคียงกับฟิล์ม APS-C คือ 22.2x14.8 มิลลิเมตร (กล้อง Canon) และ 23.6x15.8 มิลลิเมตร (กล้อง Nikon) จึงเรียกว่ากล้องดิจิตอลเอสแอลอาร์แบบ APS-C ตัวอย่างกล้องก็เช่น Canon EOS 40D, 400D, Nikon D80, D300, D40, Pentax K10D จะมีข้อยกเว้นก็คือ Canon EOS 1D มีขนาดอิมเมจเซ็นเซอร์ใกล้เคียงกับ ฟิล์ม APS-H และ Olympus ที่มีขนาดอิมเมจเซ็นเซอร์ 18x13.5 มิลลิเมตร ซึ่งมีชื่อเรียกเฉพาะว่า Four Third

Medium Format
ขนาดของฟิล์มที่อยู่ตรงกลางระหว่างฟิล์ม 35 กับฟิล์ม 4x5 นิ้ว ฟิล์มแบบมีเดียมฟอร์แมตนั้นไม่มีขนาดมาตรฐาน ขึ้นอยู่กับผู้ผลิต มีขนาดให้งงเล่น เช่น 6x6, 6x4.5, 6x7, 6x9 เซ็นติเมตร ด้วยขนาดฟิล์มที่แตกต่างกัน กล้องมีเดียมฟอร์แมตจึงออกแบบ ให้ฝาด้านหลังของกล้อง ซึ่งเรียกว่า Backs สามารถถอดเปลี่ยน หรือสลับไปใช้ฝาหลังที่รองรับฟิล์มขนาดอื่นได้ และยังสามารถ เปลี่ยนไปใช้ฝาหลังที่เป็นดิจิตอลได้ ซึ่งเรียกว่า Digital Backs

กล้อง ดิจิตอลแบบ Medium Format มีขนาดของอิมเมจเซ็นเซอร์ ประมาณ 48x36 มิลลิเมตร ซึ่งเล็กกว่าฟิล์มมีเดียมฟอร์แมต ตัวอย่างของกล้องก็เช่น PhaseOne, Sinar, Leaf, Mamiya

View Camera
ลองนึกถึงขนาดฟิล์มที่ใหญ่กว่า 20x24 นิ้ว ซึ่งมีขนาดพอๆ กับ จอแอลซีดี 19 นิ้วดู ฟิล์มขนาดนี้แล้วตัวกล้องจะขนาดไหน โชคดี ที่ในปัจจุบันกล้องวิวนิยมใช้กันแค่สองขนาดคือ 8x10 และ 4x5 นิ้ว ทำให้กล้องและอุปกรณ์ต่างๆ มีขนาดเล็กลงและสะดวกพอที่ จะเอาไปใช้งานข้างนอกได้

กล้องวิวถูกพัฒนาให้ใช้ระบบดิจิตอลเช่นเดียวกับกล้องประเภทอื่นๆ โดยสามารถใช้ Digital Backs ของกล้องมีเดียมฟอร์แมต หรือถ้าต้องการขนาดและคุณภาพที่สูงกว่าก็ใช้ Digital Scanning Backs ซึ่งมีขนาดของอิมเมจเซ็นเซอร์ใหญ่ถึง 4x5 นิ้ว ระดับ 130 ล้านพิกเซล ไฟล์เกือบ 800 เมกะไบต์ต่อไฟล์ ตัวอย่างกล้องวิวก็ได้แก่ Sinar, Linhof, Betterlight เป็นต้น

ทั้งหมดนี่ก็คือขนาด ของฟิล์มหรืออิมเมจเซ็นเซอร์ ซึ่งนอกจากจะเป็นสิ่งที่ทำให้กล้องถูกแบ่งแยกเป็นประเภท ต่างๆ แล้ว สิ่งหนึ่งที่สำคัญก็คือคุณภาพของภาพถ่าย งานบางประเภทต้องใช้ต้นฉบับภาพที่มีขนาดใหญ่ มีรายละเอียดที่ครบถ้วน เช่นงาน ถ่ายภาพแฟชั่น งานถ่ายภาพด้านพิพิธภัณฑ์ ภาพถ่ายที่มีขนาดใหญ่ รายละเอียดของสิ่งเล็กๆ ก็จะเห็นชัดขึ้น ช่วยให้การแก้ไข สะดวกและแม่นยำกว่า และในการพิมพ์ก็จะได้ภาพถ่ายที่มีความคมชัดสูง แต่กับงานบางประเภทก็ไม่จำเป็นต้องใช้ภาพ ถ่ายที่มีขนาดใหญ่โต อย่างเช่นหนังสือพิมพ์ ใช้เพียงภาพถ่ายเล็กๆ เสียเป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งกระดาษหนังสือพิมพ์ก็ไม่ได้ รองรับงานพิมพ์คุณภาพสูง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น