
รูรับแสง
ในการถ่ายภาพทุกภาพ จะต้องควบคุมระยะเวลาในการรับแสงของฟิล์มหรืออิมเมจเซ็นเซอร์ เหมือนกับการเปิด น้ำใส่ถัง โดยกลไกที่ใช้ควบคุมระยะเวลาก็คือ Apeture กับ Shutter หรือรูรับแสงกับชัตเตอร์นั่นเอง
Aperture หรือรูรับแสง เป็นชิ้นส่วนที่อยู่ภายในเลนส์ ของกล้อง โดยรูรับแสงสามารถปรับให้เปิดกว้างหรือ เล็กลง ซึ่งจะมีผลทำให้ แสงผ่านเข้ามาในเลนส์ได้มาก หรือน้อยตามไปด้วย
การปรับรูรับแสงนั้นทำได้จากปุ่มบนตัวกล้อง โดยเลือกโหมดการทำงานของกล้องเป็นโหมด Av หรือ M จากนั้น ก็ปรับปุ่มรูรับแสง บนตัวกล้อง ขนาดของรูรับแสงที่ปรับได้นั้นจะขึ้นอบู่กับเลนส์ เลนส์ แต่ละตัวจะมีค่ารูรับแสงกว้างสุดกับแคบสุด (อ่านได้จาก เรื่องน่ารู้ของเลนส์)

เมื่อปรับความกว้างของรูรับแสง จะทำให้กลีบใบพัดที่ซ้อนกันอยู่ ขยายออกหรือบีบเข้ามา ทำให้รูตรงกลางกว้างขึ้นหรือแคบลง ค่ารูรับแสง เรียกว่า F-stop เมื่อปรับรูรับแสง ค่าของรูรับแสงจะแสดงให้เห็นในช่องมองภาพหรือจอแอลซีดี ค่าที่แสดงขึ้นมาจะเป็น f/2.8, f/4, f/5.6, f8, f/11, f/16, f/22, f/32 ค่าตัวเลขน้อย หมายถึงรูรับแสงกว้าง ส่วนตัวเลขที่มีค่ามากหมายถึงรูรับแสงแคบ
รูรับแสงที่เปิดกว้างหรือแคบ ส่งผลในการใช้เวลาที่ต้องเปิดม่านชัตเตอร์เพื่อให้ฟิล์มหรืออิมเมจเซ็นเซอร์ ได้แสงเพียงพอในการ สร้างเป็นภาพถ่าย ถ้าแสงผ่านเลนส์เข้ามาได้น้อย ก็ต้องใช้เวลามากขึ้น แต่รูรับแสง ไม่ได้มีผลเฉพาะกับระยะเวลาในการ เปิดม่านชัตเตอร์ เพื่อรับแสงเท่านั้น สิ่งที่มีผลตามมาด้วยก็คือระยะชัดลึกของภาพถ่าย
ข้อควรจำ : การปรับค่ารูรับแสงมีผลต่อความชัดในแนวลึกของภาพ ซึ่งจะอธิบายเพิ่มเติมในหัวข้อ Dept of Field
หัวข้อที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
- ความเร็วชัตเตอร์
- ความไวแสง
- การอ่านค่าแสง
- ความชัดลึก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น