
ความแตกต่างระหว่างแฟลช Canon 580EX II และ 430EX II
มีความแตกต่างมากมายระหว่างแฟลชสองรุ่นนี้ ไม่ใช่เพียงแค่ราคาเท่านั้น แต่ฟังก์ชันต่างๆ ก็ต่างกันหลายอย่าง มาดูสิ่งที่แตกต่างกันว่ามีอะไรบ้าง
พลัง
สิ่งที่แฟลช 580EX II เหนือกว่า 430EX II ก็คือความแรงของแสงแฟลช ที่ให้ความสว่างไกลกว่ารุ่น 430 ถึง 35% (58 เมตร และ 43 เมตร) ความสว่างความแรงของแสงที่มากกว่า จะมีประโยชน์เมื่อคุณจำเป็นต้องใช้แฟลชสะท้อนเพดาน ใช้แฟลชจากระยะไกล หรือใช้แฟลชร่วมกับอุปกรณ์กระจายแสงต่างๆ เช่น ถ้วยมาม่าต้มยำ (เน้นฮา) ร่มสะท้อนแสง ซอฟท์บ็อก ซึ่งการใช้แฟลชในลักษณะนี้จะทำให้เสียความสว่างของแสงไป ในบางสถานะการณ์อาจทำให้ความสว่างของแฟลชไม่เพียงพอ
โครงสร้าง
แฟลชรุ่น 580EX II มีขนาดที่ใหญ่กว่า น้ำหนักมากกว่า โครงสร้างมีความแข็งแรงกว่า มีซีลกันฝุ่น กันละอองน้ำที่บริเวณส่วนสำคัญ ของแฟลชคือ ที่หัวแฟลช บานพับช่องใส่แบต เตอรี่ บริเวณฐานด้านล่างที่จะใช้ติดกับตัวกล้อง และฐานของแฟลช 580EX II เป็น โลหะ ตัวล็อกแฟลชกับฮ็อตชูของกล้องก็เป็นแบบก้านล็อก ส่วน 430EX II เป็นแบบเกลียว
แผ่นสะท้อนแสง
ด้านหน้าของแฟลช 580EX II จะมีแผ่นพลาสติกใส ซึ่งเอาไว้ใช้กระจายแสงเมื่อใช้กับเลนส์มุมกว้าง และแผ่นพลาสติกสีขาว เอาไว้ใช้สะท้อนแสงเพื่อทำให้เกิดประกายแสง ในดวงตาเวลาถ่ายภาพคน (เวลาใช้งานต้องปรับหัวแฟลชให้ตั้งขึ้น 90 องศา แล้วดึงแผ่นสะท้อนแสงสีขาวขึ้น และใช้งานอยู่ในระยะประมาณ 1.5 เมตร) ส่วนแฟลช 430EX II จะมีเฉพาะแผ่นกระจายแสง มุมกว้างเท่านั้น
ระบบทำงานแบบไร้สาย
แฟลชรุ่นท็อปของ Canon เช่น 550, 580, 580EX II จะมีตัวรับ/ส่งสัญญาณแบบอินฟราเรด ดังนั้นจึงสามารถส่งสัญญาณให้แฟลช ตัวอื่นทำงาน หรือเป็นตัวรับสัญญาณจากแฟลช ตัวอื่นก็ได้ ในขณะที่แฟลช 430EX II จะมีเพียงแค่ตัวรับสัญญาณ หากต้องการ ใช้งานแบบไร้สาย ก็ต้องมีแฟลช 580EX II เป็นตัวสั่งงาน หรืออาจจะใช้ อุปกรณ์สั่งงานแฟลชไร้สาย แบบอินฟราเรด Canon ST-E2 เป็นตัวสั่ง
ปุ่มควบคุมการใช้งาน
ปุ่มควบคุมการใช้งานด้านหลังของตัวแฟลช 580EX II จะเป็นแบบวงล้อหมุน ทำให้ใช้งานได้ง่ายกว่า ในขณะที่ด้านหลังของ 430EX II จะเป็นแบบปุ่มกด ทำให้การใช้งานต้อง เสียเวลากดปุ่มกันวุ่นวาย คนที่ใช้กล้องพวกเลขสองหลัก หรือหลักเดียว 50D, 5D, 1Ds คงจะรู้ว่าปุ่มหมุนด้านหลังกล้องนะเยี่ยมจริงๆ เวลาใช้งาน
ช่องต่ออุปกรณ์ด้านข้าง
ด้านข้างของแฟลช 580EX II จะมีคอนเน็คเตอร์สามช่อง ช่องบนซ้ายมีไว้สำหรับต่อกับแบตเตอรีภายนอก ช่องบนขวาเอาไว้สำหรับ ยึดแฟลชเข้ากับ Flash Bracket สำหรับ แยกแฟลชออกจากตัวกล้อง และช่องด้านล่างสุดเป็นช่อง PC Connector เอาไว้สำหรับ ต่อสายอุปกรณ์สั่งงานแฟลชไร้สายแบบใช้คลื่นวิทยุ (อ่านรายละเอียดจากเรื่อง Wireless Flash) สำหรับแฟลช 430EX II จะมีเพียง ช่องสำหรับติดกับ Flash Bracket เท่านั้น
มิเตอร์วัดแสงภายนอก
แฟลช 580EX II มีเซ็นเซอร์วัดแสงอยู่ด้านหน้าของแฟลช ซึ่งระบบนี้ทำให้ไม่จำเป็นต้องพึ่งระบบการวัดแสง และคำนวณค่า แสงแฟลชของตัวกล้อง ตัวเซ็นเซอร์วัดแสงที่แฟลช จะทำหน้าที่อัตโนมัติ โดยการใช้งานจะต้องตั้งค่า ISO และรูรับแสงของแฟลช ให้ตรงกับค่าในกล้อง ยกเว้นกล้องรุ่น 1D MK III ตัวแฟลชจะทำงานในโหมดอัตโนมัติ ปรับค่า ISO และรูรับแสงตามกล้อง
โหมด stroboscopic
แฟลช 580EX II มีโหมด stroboscopic ซึ่งเป็นการปล่อยแสงแฟลชออกมาหลายๆ ครั้ง โดยสามารถตั้งจำนวนครั้งในการปล่อย แสงแฟลช และระยะห่างในการปล่อยแสงแฟลช ในการใช้งานจะต้องใช้กับความเร็วชัตเตอร์ B และในที่มืด ส่วนแฟลช 430EX II ไม่มีโหมดนี้ ก็ไม่ต้องเสียใจ เพราะผมใช้แฟลช 580 มาเป็นปีๆ ก็ยังไม่ได้ใช้โหมด stroboscopic สักครั้ง
ข้อแตกต่างอื่นๆ ระหว่าง 580EX II และ 430EX II
- 580 กำลังไฟสูงกว่า ขนาดใหญ่กว่า น้ำหนักมากกว่า เสียงขณะใช้งานเงียบกว่า
- 580 กำหนด Custom Function ได้ 14 แบบ 430 ได้ 9 แบบ
- 580 มีไฟช่วยโฟกัส 45 จุด ได้ประโยชน์เต็มๆ กับกล้องพวก 1D
- 580 มีโหมด stroboscopic (ปล่อยแสงแฟลชออกมาหลายๆ ครั้ง ในการถ่ายภาพ)
- 580 โหมดแมนวลปรับกำลังของแสงแฟลชได้ตั้งแต่ 1/1 - 1/128 ส่วน 430 ได้ตั้งแต่ 1/1 - 1/64
- 580 ปรับหัวแฟลชก้มต่ำลงได้ 7 องศา 430 ไม่ได้ ปรับหัวแฟลชไปทางซ้าย/ขวา ได้ 0 - 180 องศา 430 ปรับซ้าย 0 - 180 ปรับขวาได้ 0 - 90 องศา
แล้วจะใช้รุ่นไหนดี
แน่นอนว่าแฟลช 580EX II ดีกว่าในทุกด้าน ฟังก์ชั่นการใช้งาน วัสดุ ปุ่มปรับต่างๆ และรวมถึงราคาด้วย แต่หากเทียบในด้าน การใช้งานจริง ที่ส่วนใหญ่ใช้ถ่ายภาพกันในระยะ 2-6 เมตร ใช้แฟลชสะท้อนเพดานบ้าง แฟลช 430EX II ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่า 580EX II ที่สำคัญแฟลช 430EX II ความเร็วในการชาร์จต่อรอบเร็วกว่า แต่ไม่ว่าจะใช้แฟลชรุ่นไหน ตัวผู้ใช้เองต้องรู้ว่าตัวเอง ถ่ายภาพประเภทไหน มีความจำเป็นต้องใช้แฟลชในการถ่ายภาพหรือเปล่า และที่สำคัญคือเข้าใจเรื่องแสงดีพอหรือยัง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น